ประวัติของ ดเวน เหว็ด



 ดเวน เหว็ด
ดเวน เหว็ด หรือชื่อเต็ม ดเวน ไทโรน เหว็ด จูเนียร์ (อังกฤษ: Dwyane Wade หรือ Dwyane Tyrone Wade, Jr. ; เกิด 17 มกราคม พ.ศ. 2525) เป็นนักบาสเกตบอลชาวอเมริกัน เล่นในลีกเอ็นบีเอ มีฉายาว่า แฟลช (Flash) และ ดี-เหว็ด (D-Wade) ปัจจุบันอยู่ทีมไมอามี ฮีท
เนื้อหา
  [ซ่อน] 
วัยเด็ก[แก้]
ดเวน เหว็ด เกิดทางตอนใต้ของเมืองชิคาโก มีพ่อชื่อ ดเวน เหว็ด ซีเนียร์ (Dwyane Wade, Sr.) กับแม่ชื่อ โจลินดา เหว็ด (Jolinda Wade) พ่อแม่เขาหย่ากัน ดเวนอาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงเขาในเมือง รอบบินส์ [รัฐอิลลินอยส์] และเขามักพูดเสมอว่ามีพี่สาวของเขาเป็นคนที่พาเขาไปในทางที่ถูกต้อง
ระดับไฮสคูล[แก้]
เหว็ดเรียนไฮสคูลที่ H. L. Richards High School ที่เมืองโอคลอว์น (Oak Lawn) รัฐอิลลินอยส์ เหว็ดไม่ได้ลงเล่นมากนักในปีสอง เพราะลูกพี่ลูกน้องของเขา ดิมิทริส แม็คแดเนีล (Demetris McDaniel) เป็นดาราในทีม เหว็ดตัวสูงขึ้นอีกสี่นิ้วตอนขึ้นปีสาม และเล่นได้เฉลี่ย 20.7 แต้ม 7.6 รีบาวด์ ทำผลงานรวม 100 แอสซิสต์ 73 สตีล
ตอนอยู่ปีสี่ เหว็ดทำได้เฉลี่ย 20.7 แต้ม 11.0 รีบาวด์ และช่วยให้ทีมมีสถิติชนะ 24 แพ้ 5 ได้เข้าชิงแชมป์ในสาย เขาทำลายสถิติของโรงเรียน โดยได้ 676 แต้มและ 106 สตีลภายในหนึ่งฤดูกาล
นอกจากด้านบาสเกตบอลแล้ว เหว็ดยังเป็นนักวิ่งที่มีชื่อในระดับไฮสกูล มีมหาวิทยาลัยเพียงสามแห่งเท่านั้นที่เสนอทุนการศึกษาให้เขา ได้แก่ มหาวิทยาลัยมาร์เคว็ต (Marquette University), มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์สเต็ต (Illinois State) และ มหาวิทยาลัยดีพอล (DePaul University)
ระดับมหาวิทยาลัย[แก้]
เหว็ดเล่นให้กับมหาวิทยาลัยมาร์เคว็ตในเมืองมิววอร์คกี ปีแรกเหว็ดไม่ได้ลงเล่นเนื่องจากติดปัญหาด้านการเรียน เมื่อเขามีสิทธิ์ลงเล่นในปีสอง (ปี ค.ศ. 2001-2002) เขาเป็นคนทำคะแนนสูงสุดในทีม ได้คะแนนเฉลี่ย 17.8 แต้มต่อเกม และยังทำได้ 6.6 รีบาวด์และ 3.4 แอสซิสต์ต่อเกม ให้ทีมมีสถิติชนะ 26 แพ้ 7 ซึ่งดีที่สุดนับจากฤดูกาล 1993-94 ในปี 2003 เหว็ดเป็นคนทำคะแนนสูงสุดอีกครั้งที่ 21.5 คะแนนต่อเกม มาร์เคว็ตได้เป็นแชมในสาย Conference USA เป็นครั้งแรกด้วยสถิติชนะ 27 แพ้ 6 และเข้าไปเล่นถึงรอบสี่ทีมสุดท้ายในการแข่งชิงแชมป์ระดับมหาวิทยาลัยของเอ็นซีดับเบิลเอ
ผลงานที่น่าจดจำที่สุดในการแข่งชิงแชมป์ของเหว็ต น่าจะเป็นตอนแข่งชิงในรอบ มิดเวสต์รีเจียนนอลไฟนอล ตอนที่แข่งกับมหาวิทยาลัยเคนทักกีซึ่งถือเป็นทีมในอันดับหนึ่งในสาย เหว็ดทำทริปเปิล-ดับเบิล ได้ 29 คะแนน 11 รีบาวด์ 11 แอสซิสต์ การเล่นที่เด่นของเหว็ดทำให้เขาตัดสินใจเข้าดราฟตัวผู้เล่นเอ็นบีเอในปีนั้น
เมื่อ 28 กันยายน ค.ศ. 2006 มาร์เคว็ต ประกาศจะรีไทร์หมายเลขเสื้อของเหว็ดตอนพักครึ่งของเกมระหว่างมาร์เคว็ตกับมหาวิทยาลัยโพรวิเดนซ์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007
โอลิมปิกส์[แก้]
เหว็ดเล่นในโอลิมปิกส์เกมฤดูร้อน ปี ค.ศ. 2004 โดยมี อัลเลน ไอเวอร์สันทิม ดังแคนเลอบรอน เจมส์ชอน แมริออน และ คาร์เมโล แอนโทนี ผู้เล่นระดับออลสตาร์ของเอ็นบีเอในทีม ถึงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยผู้เล่นระดับดาราแต่ทีมก็ได้เพียงเหรียญทองแดง
เหว็ดถูกเลือกให้ติดบาสเกตบอลทีมชาติสหรัฐอเมริกาจากปี 2006 ถึง 2008 เหว็ดได้แข่งในเวิร์ลแชมเปียนชิพ 2006 ที่ญี่ปุ่นและได้เหรียญทองแดง เหว็ดจะเข้าร่วมแข่งในโอลิมปิกส์เกม 2008 ที่ปักกิ่ง สำหรับปี 2006 เหว็ดได้เป็นกัปตันทีมร่วมกับ เลอบรอน เจมส์ และ คาร์เมโล แอนโทนี
อาชีพการเล่นเอ็นบีเอ[แก้]
เหว็ด ถูกดราฟเป็นอันดับที่ห้าในการดราฟของเอ็นบีเอในปี 2003 โดยไมอามี ฮีท และกลายเป็นดาวในทีมทันที เขาทำได้ 16 คะแนน 4 รีบาวด์ และ 4 แอสซิสต์ในปีแรก และยังทำผลงานได้ดีในรอบเพลยออฟโดยเฉพาะตอนที่เจอกับอินดีอานา เพเซอรส์ในรอบก่อนชิงแชมป์คอนเฟอเรนซ์ตะวันออก แต่ว่าในปีนั้นผู้เล่นหน้าใหม่อีกสองคนคือ คาเมโล แอนโทนี และ เลอบรอน เจมส์ กลับที่สนใจของสื่อมวลชนมากกว่า จากความสำเร็จในปีแรกของ เหว็ด เขาก็ได้รับการคัดตัวเป็นทีมชาติสหรัฐ
ฤดูกาล 2004-05 เมื่อแชคิล โอนีลถูกเทรดจากทีมลอสแอนเจลิส เลเกอรส์มายังฮีท ผลงานของเหว็ดดีขึ้นในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นคะแนนเฉลี่ย แอสซิสต์ และ รีบาวด์ ได้รับเลือกในเกมออลสตาร์ ฮีทขยับผลงานจากชนะ 42 แพ้ 40 ในปีก่อนหน้ามาเป็น ชนะ 59 แพ้ 23 หรือดีขึ้นถึง 17 เกม และเป็นสถิติแพ้ชนะที่ดีที่สุดในคอนเฟอเรนซ์ตะวันออก
ในรอบเพลย์ออฟ 2005 รอบแรกกับนิวเจอร์ซีส์ เน็ตส์ ฮีทชนะรวดโดยเหว็ดเล่นได้เฉลี่ย 26.3 คะแนน 8.8 แอสซิสต์ 6.0 รีบาวด์ และเปอร์เซนต์การชู้ต 50% ถือเป็นผู้เล่นคนที่เจ็ดที่สามารถทำ 25 คะแนน 8 แอสซิสต์ 6 รีบาวด์และชู้ตอย่างน้อย 50% (อีกหาคนที่เหลือล้วนอยู่ในหอเกียรติยศได้แก่ บ็อบ คอสีออสการ์ รอเบิร์ตสันวิลต์ แชมเบอร์เลนแลร์รี เบิร์ดแมจิก จอห์นสัน และ ไมเคิล จอร์แดน) เหว็ดทำได้อีกครั้งในรอบสองเอาชนะวอชิงตัน วิซารดส์ 4 เกมรวด ที่ผลงาน 31 แต้ม 7 รีบาวด์ 8 แอสซิสต์ต่อเกม ฮีทไปแพ้ดีทรอยต์ พิสตันส์ (ทีมป้องกันแชมป์) ใน 7 เกมตอนแข่งรอบชิงแชมป์คอนเฟอร์เรนซ์ตะวันออก เหว็ดทำคะแนนได้ 40 และ 36 ในเกม 2 และเกม 3 ขณะตอนที่เป็นไข้ ไซนัสอักเสบ และเจ็บเข่า เขาบาดเจ็บกล้ามเนื้อซี่โครงในเกม 5 ทำให้อดเล่นในเกม 6 และเล่นได้จำกัดในเกม 7 ความพ่ายแพ้ในเกม 7 ส่วนหนึ่งมาจากสภาพที่ไม่สมบูรณ์ของเหว็ด ซึ่งก่อนหน้านี้ฮีทนำพิสตันส์อยู่ 3 ต่อ 2 เกม
ฤดูการ 2005-06 เหว็ดถูกเลือกให้เล่นในเกมรวมดาราเอ็นบีเออีกเป็นครั้งที่สอง และยังเป็นคนที่ทำให้ทีมชนะด้วย เขาเอาลูกที่อัลเลน ไอเวอร์สันชู้ตพลาดยัดกลับลงห่วง ตลอดฤดูกาลเหว็ดเล่นเฉลี่ย 27.2 แต้ม 6.7 แอสซิสต์ 5.7 รีบาวด์ 1.95 สตีล ในรอบเพลย์ออฟ เหว็ดเจ็บสะโพกแต่ก็กลับมาพาทีมชนะในรอบแรก และชนะดีทรอยต์ พิสตันส์ ในรอบชิงคอนเฟอร์เรนซ์ตะวันออก เข้ารอบชิงแชมป์เอ็นบีเอเป็นครั้งแรก
ในรอบชิง ฮีทพบกับดัลลัส แมฟเวอริกส์ เหว็ดยังโชว์ความสามารถของเขา ในเกม 3, 4 และ 5 เหว็ดทำได้ 42, 36 และ 43 คะแนนตามลำดับ พาทีมจากการเป็นรอง 0 ต่อ 2 เกม มานำ 3 ต่อ 2 เกม ฮีทชนะในเกม 6 และคว้าแชมป์เอ็นบีเอ และเหว็ดได้รับรางวัลเอ็มวีพีรอบไฟนอล
ในฤดูกาล 2006-07 เหว็ดได้รับเลือกเล่นในเกมรวมดาราเป็นปีที่สามติดต่อกัน แต่ทีมฮีทก็เริ่มต้นฤดูกาลโดยชนะเพียง 20 แต่แพ้ถึง 25 เกม[1] แต่หลังจากที่แชคหายจากการบาดเจ็บ และโค้ชแพท ไรเลย์ กลับมาหลังผ่าตัดสะโพกและหัวเข่า[2] ฮีทมีท่าทีว่าจะทำผลงานในครึ่งหลังได้ดี แต่ในเกมระหว่างฮีทกับฮิวส์ตัน รอกเก็ตส์เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ เหว็ดหัวไหล่ซ้ายเคลื่อนระหว่างการพยายามขโมยลูกจาก เชน แบททิเยร์ และต้องพาออกนอกสนามด้วยรถเข็น[3] เหว็ดต้องตัดสินใจระหว่างการพักฟื้นและกลับมาเล่นใหม่ช่วงปลายฤดูกาล หรือผ่าตัดและรอจนฤดูกาลหน้ากว่าจะเล่นได้อีก[4] เหว็ดประกาศเมื่อ 5 มีนาคมว่าจะเลื่อนการผ่าตัดออกไปและพักเพื่อพยายามกลับมาเล่นให้ทีมให้ทันช่วงเพลย์ออฟ[5]
เหว็ดกลับมาเล่นอีกครั้งในวันที่ 8 เมษายน หลังจากพักไป 23 เกม ในเกมแรกที่กลับมา เหว็ดแข่งกับชาล็อต บ็อบแคทส์ทำได้ 12 คะแนน 8 แอสซิสต์ แต่แพ้ต่อเวลาที่คะแนน 103 ต่อ 111[6] เหว็ดจบฤดูกาลด้วยสถิติเฉลี่ย 27.4 แต้ม 7.5 แอสซิสต์ 4.7 รีบาวด์ และ 2.1 สตีล ต่อเกม[7]
ในรอบเพลย์ออฟ เหว็ด เล่นได้เฉลี่ย 23.5 แต้ม 6.3 แอสซิสต์ 4.8 รีบาวด์ต่อเกม แต่ฮีทก็ตกรอบแรกโดยแพ้ ชิคาโก บุล สี่เกมรวด[8] เหว็ดผ่าตัดไหล่ซ้ายและเข่าซ้ายและจะต้องพักช่วงเดือนแรกของฤดูกาล 2007-08[9]
รางวัลที่ได้รับ[แก้]
แชมป์เอ็นบีเอ กับทีมไมอามี ฮีท: ปี 2006
รางวัลเอ็มวีพีรอบไฟนอล: ปี 2006
ได้รับเลือกเล่นในเกมออลสตาร์: ปี 2005, 2006, 2007
เหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก กับทีมชาติสหรัฐ ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน ปี 2008
เหรียญทองแดงในกีฬาโอลิมปิก กับทีมชาติสหรัฐ ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ ปี 2004
เหรียญทองแดงในฟีบาเวิร์ลแชมเปียนชิพ กับทีมชาติสหรัฐ ปี 2006
แชมป์เอ็นบีเอ กับทีมไมอามี ฮีท ปี 2012
ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%99_%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%94

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประวัติของKyrie Irving

ประวัติของ Stephen curry

ประวัติของ Michael Jeffrey Jordan